วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2553

พะแนงหมู



ส่วนผสมน้ำพริกแกง

พริกแห้งบางช้าง                 7 เม็ด
ตะไคร้และรากผักชี อย่างละ       2 ช้อนโต๊ะ
ข่า ยี่หร่าและลูกผักชี อย่างละ      2  ช้อนชา
กระเทียม หอมแดงและถั่วลิสงคั่ว อย่างละ     2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น เกลือป่น และกะปิ อย่างละ    1 ช้อนชา
ผิวมะกรูด                       2   ช้อนชา

วิธีทำน้ำพริกแกง
โขลกส่วนผสมเครื่องแกงเข้าด้วยกันจนละเอียด

สิ่งที่ต้องเตรียม
เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ บางๆ ถ้าเป็นเนื้อวัวต้องติดมัน         400 กรัม
มะพร้าวขูดขาว                                          250 กรัม
น้ำมันพืช                                                1/4 ถ้วยตวงหรือมากกว่า
น้ำปลา                                                  2  ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี้ป                                                2  ช้อนโต๊ะ 
ใบมะกรูดซอย                                            4-5 ใบ
พริกชี้ฟ้าแดง เหลือง   ซอยเป็นเส้นๆ ไว้แต่งหน้า              4 เม็ด
ใบโหระพา   ไว้แต่งหน้า                                   4-5 ใบ
เพิ่มมะเขือพวง หรือยอดมะพร้าวอ่อนก็ได้
วิธีทำ
- คั้นมะพร้าวให้ได้กระทิ 3 ถ้วยตวง เตรียมไว้
- เคี่ยวกะทิให้แตกมันทิ้งไว้
- ผัดเครื่องแกงที่โขลกกับน้ำมันให้หอม ไส่กะทิที่เคี่ยวไว้ลงผัด ไส่เนื้อหมูผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี้ป รสเค็ม หวาน เคี่ยวให้ไฟอ่อนๆ จนเหลือน้ำแกงขลุกขลิก (ไส่มะเขือพวงและยอดมะพร้าวอ่อนรอให้สุก) ตักไส่จานโรยด้วยใบมะกรูดหั่นฝอยและพริกชี้ฟ้าแดงเหลืองซอย แต่งหน้าด้วยใบโหระพา                          

เค้กกล้วยหอม




ส่วนผสม




แป้งสาลีทำเค้ก            300 กรัม
เกลือป่น                  1   ช้อนชา
เบคกิ้งโซดา             1 1/4 ช้อนชา
ผงฟู                    1 1/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย               340 กรัม
ไข่ไก่                       3 ฟอง
มาร์การีน                  80 กรัม
เนยสดชนิดเค็ม            100 กรัม
กล้วยหอมบด (สุกมากๆ)    300 กรัม
นมข้นจืด                  125 กรัม
น้ำมะนาว                   1  ช้อนโต๊ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม
พิมพ์ถ้วยจีบเบอร์ 2816 รองด้วยถ้วยกระดาษ จำนวน 35 พิมพ์

วิธีทำ










1. ผสมนมข้นจืดและน้ำมะนาวเข้าด้วยกัน พักไว้




2. ร่อนแป้งสาลีทำเค้ก เกลือป่น เบคกิ้งโซดาและผงฟูเข้าด้วยกัน ไส่น้ำตาลทรายลงในแป้ง ใช้พายยางคลุกผสมให้เข้ากัน




3. ตีส่วนผสมแป้งที่ร่อนเตรียมไว้กับเนยสดและมาร์การีน ใช้หัวใบไม้ ความเร็วต่ำจนส่วนผสมเป็นเม็ดทราย





ใส่กล้วยหอม เพิ่มความเร็วปานกลาง ตีจนส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเนียน





ใส่ไข่ไก่ทีละฟองจนหมด ตีส่วนผสมจนเนื้อเนียน





ตามด้วยนมเปรี้ยว ตีผสมจนเข้ากัน





ปิดเครื่อง ใช้พายยางคนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง





4. ตักไส่พิมพ์ถ้วยจีบประมาณ 3/4 ของพิมพ์





5. นำเข้าอบไฟล่าง-บน 450 องศาฟาเรนไฮด์




เวลาประมาณ 12-15 นาที อบไฟแรงๆ เพื่อให้ตรงกลางเค้กนูนขึ้น







การเช็คว่าสุก  เค้กนูนขอบสีน้ำตาลสวยหรือใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มไปที่ถ้วยกลางถาด ถ้าไม่มีเนื้อเค้กติดแสดงว่าสุกแล้ว รีบนำออกจากพิมพ์วางบนตะแกรง พักไว้ให้เย็นสนิท

วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2553

แกงเขียวหวานไก่



เครื่องปรุงน้ำพริกแกง
ตะไคร้ซอย        2 ช้อนโต๊ะ
ข่าหั่นละเอียด กะปิ ลูกผักชีคั่วป่น เกลือป่น และพริกไทย อย่างละ  1 ช้อนชา
ผิวมะกรูดหั่นฝอย        1 ช้อนโต๊ะ
พริกชี้ฟ้า เขียว เหลือง อย่างละ    3 เม็ด
พริกขี้หนูสวน        20 กรัม
ยี่หร่าคั่วป่น        1 ช้อนชา
ผักชีทั้งต้นและรากหั่นละเอียด    3 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมปอกเปลือก    2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอยหยาบ    2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำพริกแกง
- บดหรือโขลกเครื่องที่เตรียมไว้ให้ละเอียดเข้ากันดี พักไว้

สิ่งที่ต้องเตรียม
ไก่ติดกระดูก สับเป็นชิ้นพอคำ    500    กรัม    (ใช้เนื้อสะโพกจะอร่อย)
มะพร้าวขูดขาว        500    กรัม
ใบมะกรูด        6    ใบ
มะเขือพวง        100    กรัม
ใบโหระพาเด็ดเป็นใบ    1 1/2    ถ้วยตวง
น้ำปลา        1/4    ถ้วยตวง
น้ำตาลปี้ป         1    ช้อนโต๊ะ
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ    2    เม็ด
มะเขือเปราะ        150    กรัม
(อาจเพิ่ม หน่อยไม้ เลือดไก่ 1 ถ้วย หรือยอดมะพร้าวเพิ่มได้ ไส่พร้อมกับมะเขือเปราะ)


วิธีทำ
- คั้นมะพร้าวให้ได้หัวกะทิ 2 ถ้วยตวงและหางกระทิ 3 ถ้วยตวง เคี่ยวให้แตกมัน
- นำหางกะทิใส่หม้อตั้งไฟพอเดือด ไส่ไก่ลงไปเคี่ยวพอสุก
- เติมหัวกะทิ 1 ถ้วยใส่กระทะตั้งไฟพอแตกมัน ไส่น้ำพริกลงไปผัดให้หอม (ไฟกลางๆ)
- เมื่อน้ำพริกแกงหอมดีแล้ว นำไก่ลงไปผัดให้เครื่องเข้าเนื้อไก่ แล้วเทไส่หม้อกะทิที่เคี่ยวไว้ ด้วยไฟอ่อนๆ ปรุงรส ด้วยน้ำปลาน้ำตาล ชิมรมให้พอดี ใส่มะเขือพวง มะเขือเปราะ  และใบมะกรูดลงไป
- ใส่หัวกะทิเคี่ยวต่อไปจนเดือด ใส่ใบโหระพาลงไปพร้อมพริกชี้ฟ้าเขียว แดง ทิ้งไว้สักครู่ คนให้เข้ากัน ปิดไฟ

เคล็ดไม่ลับ
-ควรจะรวนเนื้อไก่กับเครื่องแกงก่อนที่จะนำไปปรุง เพราะเนื้อไก่มีน้ำอยู่มาก หากนำไปแกงทันที จะทำให้น้ำแกงใส
-ถ้าอยากให้น้ำแกงสีเขียวสวยให้ไส่ใบพริกหรือใบตำลึงลงไปในน้ำแกงด้วย จะช่วยให้น้ำแกงมีสีเขียวน่ากิน
-สามารถเปลี่ยนเนื้อไก่ เป็นเนื้อหมู เนื้อวัว หรือลูกชิ้นปลากรายได้ สำหรับเนื้อหมูหรือเนื้อวัว ถ้าชอบแบบนุ่มๆ ก็ใช้สันใน ส่วนลูกชิ้นปลากราย ถ้าซื้อเนื้อมาให้แช่เย็นจัดแล้วนำออกมาตำในครกหรือฟาดกับกะลามังผสม ไส่น้ำเกลือนิดหน่อยนวดให้เหนียวแล้วนำไปต้มในน้ำเดือดปั้นเป็นลูกๆ พอคำ บางคนก็เอาไข่แดงเค็มไส่ตรงกลางแล้วเอาเนื้อปลากรายหุ้ม ก่อนนำไปต้ม ก็จะอร่อยอีกแบบ